วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2555

“ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต ทู” เปิดตัวแล้วครั้งแรกในโลก ณ งาน IFA 2012


“ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต ทู” เปิดตัวแล้วครั้งแรกในโลก ณ งาน IFA 2012


ซัมซุง ผู้นำอันดับหนึ่งมือถือระดับโลกเปิดตัว “ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต ทู (Samsung Galaxy Note II)” ณ งานมหกรรมแสดงสินค้าอิเล็คทรอนิกส์ IFA 2012 ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต ทู ถือเป็นสมาร์ทดีไวซ์รุ่นล่าสุดจากไลน์อัพกาแล็คซี่ โน้ต ที่จะมอบประสบการณ์ที่แตกต่างให้ผู้ใช้สร้างคอนเทนท์ที่บ่งบอกความเป็นตัวเอง เพื่อความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นได้ ในทุกๆ ที่ เพราะมาพร้อมกับการแสดงผลที่สมบูรณ์ผสานกับคุณสมบัติที่พิเศษเฉพาะตัว 


ทั้งยังสามารถค้นหาข้อมูลและรวบรวมความคิดไว้ได้เร็วขึ้น รวมถึงถ่ายทอดความคิดได้อย่างอิสระและจัดการงานต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับคนที่ชอบสร้างสรรค์ ดั้งนั้นซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต ทู จึงเป็นอุปกรณ์ที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ดำเนินชีวิตในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต ทู มากับหน้าจอ HD Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ให้ภาพสวยและถ่ายทอดรายละเอียดได้อย่างคมชัดสดใส สัดส่วนหน้าจอ 16:9 ทำให้การรับชมวีดีโอเป็นประสบการณ์ที่ได้อารมณ์เหมือนกับ การชมในโรงภาพยนตร์ จึงเหมาะสำหรับการชมวิดีโอความละเอียดสูงได้ในทุกๆ ที่ หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นทำให้ผู้ใช้สามารถชมคอนเทนท์ต่างๆ ได้อย่างชัดเจน และอ่านคอนเทนท์ได้ง่ายขึ้น 

และยังสามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้ อย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารถสร้างคอนเทนท์ได้อย่างมีอิสระในทุกๆ ที่ เนื่องจากซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต ทู พกพา ได้ง่ายเพราะได้รับการดีไซน์ให้บางกว่าเดิม พร้อมปากกา S Pen ดีไซน์ใหม่ให้กระชับมือเป็นเยี่ยม เขียนได้อย่างรู้สึกเป็นธรรมชาติมากกว่าเดิม นอกจากนี้ยังได้ผสานคุณสมบัติและแอพพลิเคชันต่างๆ ไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งจะช่วยให้การใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างง่ายดายและเป็นธรรมชาติกว่าเคย
ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต ทู สามารถใช้งานหลายโปรแกรมในแบบ Multitasking โดยผู้ใช้สามารถเปิดหน้าต่างหลายๆ หน้าต่างบนหน้าจอได้โดยไม่จำเป็นต้องปิดแอพพลิเคชันที่เปิดอยู่ โดยแอพเหล่านั้นจะวางซ้อนกันอยู่บนหน้าจอเหมือนกับหน้าต่างหลายๆ หน้าต่าง และผู้ใช้สามารถสลับใช้แอพพลิเคชั่นเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย และเพื่อมอบพลังในการสร้างสรรค์และแบ่งปันคอนเทนท์ 

รวมถึงความสามารถในการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน หน่วยประมวลผล 1.6 GHz Quad-Core พลังแรง และการเชื่อมต่อ HSPA Plus หรือ 4G ช่วยให้การทำงานแบบ Multitasking เป็นไปอย่างง่ายดายอีกด้วย ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต ทู มากับระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ 4.1 เจลลี่บีน (Android™ 4.1, Jelly Bean) พร้อมความสามารถอันน่าทึ่งในด้านกราฟิก 

ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต ทู มาพร้อมกล้องหลัก 8 ล้านพิกเซลและกล้องหน้า 1.9 ล้านพิกเซล ความสามารถใน การบันทึกวีดีโอด้วยความละเอียดระดับ HD พร้อมคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของกล้อง อาทิ Buddy Photo Share Burst Shot และ Best Photo พร้อมคุณสมบัติการใช้งานพิเศษเฉพาะตัว คือ Best Faces โดยผู้ใช้สามารถเลือกใบหน้าหรือท่าทางที่ชื่นชอบมากที่สุดของแบบแต่ละคนที่อยู่ในภาพหมู่ได้


คุณสมบัติ Smart Stay จะอยู่ในกล้องของ ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต ทู เพื่อป้องกันไม่ให้เข้าสู่โหมดสแตนด์บาย หากพบว่าผู้ใช้ยังอยู่ที่ด้านหน้าของอุปกรณ์ และด้วยคุณสมบัติ AllShare® Play ผู้ใช้จะสามารถแบ่งปันคอนเทนท์กับคนกลุ่มใหญ่ๆ ได้ในแบบเรียลไทม์ โดยการเชื่อมต่อ ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต ทู เข้ากับอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์อื่นของซัมซุง นอกจากนี้ คุณสมบัติ AllShare Cast ยังช่วยให้ผู้ใช้แบ่งปันหรือทำงานร่วมกับคนอื่นๆ ในเอกสารพรีเซนเทชัน หรือรูปภาพชิ้นใดชิ้นหนึ่งไปพร้อมๆ ในแบบเรียลไทม์ได้โดยที่ไม่ต้องโหลดไฟล์ต่างหาก

ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต ทู มีให้เลือก 2 สีคือสีขาว Marble White และสีเทา Titanium Gray โดยจะทยอยเปิดตัว ในตลาดต่างๆ ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ เริ่มจากตลาดหลักๆ ในยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง

ขอขอบคุณ http://www.techxcite.com

วันเสาร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2555

IFA2012: Sony เปิดตัวสมาร์ทโฟน 3 รุ่น Xperia T, V, J เน้นกล้องชัด สเปคแรง!

IFA2012: Sony เปิดตัวสมาร์ทโฟน 3 รุ่น Xperia T, V, J เน้นกล้องชัด สเปคแรง!


ติดตามข่าวงาน IFA 2012: Sony Xperia T ที่น่าสนใจนอกจาก Samsung ที่ขโมยซีนแบรนด์อื่นๆ ในงาน IFA 2012 ไปแล้ว ยังมีอีกค่ายที่จัดเต็ม เปิดตัวสมาร์ทโฟนลงสู้สังเวียนเช่นกัน  นั่นก็คือ Sony ครับ ที่ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ถึง 3 รุ่นในตระกูล Xperia ของตนเอง นั่นก็คือ Sony Xperia TSony Xperia V, และ Sony Xperia J โดยทั้งสามรุ่นนี้ก็แบ่งกันลงตลาดคนละตลาดเลยครับ โดยรุ่นที่ท็อปที่สุดจะเป็นเจ้า Sony Xperia T นั่นเอง โดยมีสเปคดังนี้เลย



- ใช้ CPU Dual-Core 1.5GHz S4 (รุ่นเดียวกับที่ใช้อยู่บนรุ่น HTC One X และ Samsung Galaxy S III ที่ขายในสหรัฐ)
- RAM 1GB
- กล้อง 13 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ Exmor R ที่มีฟังค์ชั่นพิเศษที่ชื่อว่า "Sleep to Snap" คือ สามารถถ่ายภาพได้แม้ว่าจะอยู่ในโหมด Sleep หน้าจอดำอยู่ก็ตาม หรือถ่านภาพด่วนนั่นเอง
- ถ่ายวีดีโอ FullHD 1080p
- กล้องหน้า 1.3 ล้านพิกเซล
- หน้าจอขนาด 4.6 นิ้ว ความละเอียด 1280x720 พิกเซล
- หน่วยความจำภายใน 16GB เพิ่มได้ด้วย microSD
- รองรับการเชื่อมต่อ NFC
- แบตเตอรี่ 1850 mAh
- บาง 9.35 มม. หนัก 139 กรัม
- มี 3 สีให้เลือกคือ สีดำ, เงิน, และขาว

อย่างไรก็ตาม Sony Xperia T มาพร้อม Android 4.0 ICS ซึ่งทาง Sony สัญญาว่าจะอัพเป็น Android 4.1 Jelly Bean ได้หลังจากวางจำหน่ายไม่นานครับ 


____________________


ต่อไปรุ่นถัดมาจะเป็น Sony Xperia V โดยรุ่นนี้จัดว่าเป็นพี่คนกลางครับ จะมีสเปคดังนี้เลยครับ

- CPU Dual-Core 1.5GHz Qualcomm MSM8960
- กล้อง 13 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ Exmor R มีโหมดถ่ายภาพด่วน และบันทึกวีดีโอที่ความละเอียด Full HD 1080p
- กล้องหน้า VGA
- หน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว ความละเอียด 1280x720 พิกเซล
- หน่วยความจำภายใน 8GB เพิ่มได้ด้วย microSD
- รองรับการเชื่อมต่อ NFC
- แบตเตอรี่ 1750 mAh
- บาง 10.7 มม. หนัก 120 กรัม
- มีให้เลือก 3 สีคือสีดำ, ชมพู และขาว
- ใช้ Android 4.0 ICS (อัพเป็น Android 4.1 JB ได้)
- คุณสมบัติพิเศษ กันน้ำกันฝุ่นได้ ระดับ IP55/57+

____________________


และรุ่นสุดท้ายรุ่นเล็กสุด คือ Sony Xperia J มีสเปคดังนี้เลยครับ

- CPU 1GHz Qualcomm MSM7227A
- บาง 9.2 มม. หนัก 124 กรัม
- หน่วยความจำภายใน 4GB เพิ่มได้ด้วย microSD
- หน้าจอขนาด 4 นิ้วความละเอียด 854x480 พิกเซล
- มีไฟบอกสถานะ Update ของ Social Media
- กล้อง 5 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า VGA
- มีสีให้เลือก สีดำ, สีทอง, สีขาว และสีชมพู
- Android 4.0 ICS (อัพเป็น Android 4.1 JB ได้)



ขอขอบคุณ http://www.techxcite.com

Samsung Galaxy Note 2 (Note II) และทุกเรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนเปิดตัว 29 สิงหาคมนี้!



:: Samsung Galaxy Note 2 (Note II) และทุกเรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนเปิดตัว 29 สิงหาคมนี้! ::


Samsung Galaxy Note 2 (Note II) อีกหนึ่งสมาร์ตโฟนเรือธงความหวังใหม่ของ Samsung ในการโค่นบัลลังก์ฝั่ง Apple ที่ครองตลาดสมาร์ตโฟนด้วย iPhone มาเสียนานสองนานกำลังจะได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 สิงหาคม 2555 นี้ 

แน่นอนว่าการกลับมาคราวนี้ของ Samsung พวกเขาหวังที่จะปักธงชัยให้กับผลิตภัณฑ์ตระกูลใหม่อย่าง Note ที่เบิกศักราชกันไปแล้วเมื่อปีก่อนกับความสำเร็จของ Samsung Galaxy Note รุ่นต้นตำรับที่ขายได้ทะลุหลัก 10,000,000 เครื่องทั่วโลกไปแล้ว ก่อนที่ในปีนี้จะเริ่มแผนสองด้วยแท็บเล็ตกึ่งสมาร์ตโฟน Samsung Galaxy Note 10.1 ที่ป๋าเพิ่งจะนำมารีวิวให้ทุกท่านได้ชมกันไปผ่านเว็บ TechXcite ของเรานั่นเอง

และในเมื่อเป็นตัวแทนของฝั่ง Android เช่นนี้ก็ไม่แปลกเลยที่จะมีสาวกตั้งความหวังเอาไว้กับ Samsung Galaxy Note 2 เอาไว้เสียมากไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปคทั้งภายนอกและภายในเครื่องที่ต้องดีเด่นขึ้นกว่าทุกรุ่นในปัจจุบัน, ความสามารถในการใช้ปากกาสไตลัส S-Pen อันเป็นเอกลักษณ์ของอุปกรณ์ตระกูล Note หรือแม้กระทั่งเรื่องของแอปพลิเคชั่นต่างๆที่ต้องจัดเต็มให้กับสาวกกันถ้วนหน้าหลังจากที่พวกเขาเพิ่งจะผ่านพ้นมรสุมในการฟาดฟันกับฝั่ง Apple ในชั้นศาลด้วยบาดแผลเต็มตัวและต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีคืนมาให้ได้เร็วที่สุด

ว่าแล้ววันนี้ ป๋าเอก TechXcite เลยถือโอกาสที่ Samsung Galaxy Note 2 (Note II) กำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 สิงหาคม 2555 นี้มาบอกเล่าถึงความเป็นไปได้ในทุกเรื่องเกี่ยวกับ Samsung Galaxy Note 2 ให้กับคนที่กำลังรอสมาร์ตโฟนจอใหญ่เบิ้มตัวนี้ได้รับทราบกันเป็นการเรียกน้ำย่อยล่วงหน้าก่อนพบกับตัวจริงกันต่อไป 

ซึ่งแน่นอนว่าถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดป๋าจะรับผิดชอบงานในการถ่ายทอดสดงาน Samsung Mobile Unpacked 2012 มาให้แฟนๆ TechXcite ของเราได้ติดตามบรรยากาศในวันดังกล่าวด้วยแน่นอนผ่านทางหน้าเว็บTechXcite และแฟนเพจ TechXcite ของเรา อย่ากระนั้นเลยเราไปชมรายละเอียดและความเป็นไปได้ทั้งหมดเกี่ยวกับ Samsung Galaxy Note 2 กันเลยดีกว่าครับพี่น้อง!!!

1. วันเปิดตัว Samsung Galaxy Note 2 (Note II)


Samsung Galaxy Note 2 (Note II) จะได้รับการเปิดตัวในงาน Samsung Mobile Unpacked 2012 วันที่ 29 สิงหาคม 2555 นี้ในมหกรรมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ IFA 2012 ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี

ทั้งนี้ทาง Samsung เปิดเผยข้อมูลมาเพียงสั้นๆว่าพวกเขาจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ตระกูล Samsung Galaxy Note รุ่นใหม่ภายในงานดังกล่าว

2. ทีเซอร์งานเปิดตัว Samsung Galaxy Note 2 (Note II)



ในคลิปโปรโมตงาน Samsung Mobile Unpacked 2012 ซึ่งนำแสดงโดย Wim Wenders ผู้กำกับหนังอาร์ตคนดังชาวเยอรมันดังกล่าวยังไม่มีการอวดโฉมตัวจริงของ Samsung Galaxy Note 2 (Note II) ออกมาแบบเต็มๆแต่อย่างใด ทว่าหนึ่งในคุณสมบัติที่เห็นชัดที่สุดในคลิปที่ว่านี้มีเพียงเรื่องของปากกาสไตลัส S-Penเท่านั้น

3. ภาพหลุดและภาพหลอกของ Samsung Galaxy Note 2 (Note II)






4. สเปคที่คาดว่าเป็นไปได้ของ Samsung Galaxy Note 2 (Note II)

- ดีไซน์ตัวเครื่องที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติเหมือน Samsung Galaxy S III 
- ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุ polycarbonate plastic เหมือน Samsung Galaxy S III
- หน้าจอแบบ Super AMOLED HD ขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด 1680*1050 พิกเซล
- หน้าจอผลิตจากกระจก Gorilla Glass 2 โดยบริษัท Corning
- หน่วยประมวลผลแบบ Quad Core CPU ตระกูล Samsung Exynos ความเร็ว 1.5GHz
- หน่วยประมวลผลกราฟฟิค Mali-400 เหมือน Samsung Galaxy S III
- 2GB RAM
- ความจุภายในเครื่องมีให้เลือกทั้ง 16GB และ 32GB เพิ่มได้ด้วย MicroSD สูงสุด 64GB
- ระบบปฏิบัติการ Android 4.1 Jelly Bean ครอบไว้ด้วยอินเตอร์เฟซ Touchwiz UI เวอร์ชั่นล่าสุด
- กล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- กล้องหลังความละเอียด 12 หรือ 13 ล้านพิกเซลแบบ Shutter-Lag Free
- แบตเตอรี่ Li-Ion ความจุ 2,600 mAh
- รองรับเครือข่าย 4G LTE

บทความโดย: http://www.techxcite.com

Samsung เปิดตัว Galaxy Note 2 มาพร้อมจอ 5.5 นิ้ว ซีพียู 1.6GHz Quad-Core และ Android Jelly Bean


มาแล้วกับ Galaxy Note รุ่นต่อไป ที่ Samsung เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่เบอร์ลิน งาน IFA 2012 และนี่คือ Samsung Galaxy Note 2 (Galaxy Note II)
สำหรับสเป็คหลักนั้นมีดังนี้
  • หน้าจอ 5.5 นิ้ว HD Super AMOLED ความละเอียด 1280×720 พิกเซล
  • ซีพียู quad-core Exynos ความเร็ว 1.6GHz
  • แรม 2GB
  • ความจุ 16/32/64GB สามารถเพิ่ม microSD ได้ 64GB
  • กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล (ออโต้โฟกัส, ไฟแฟลช LED)
  • กล้องหน้า 1.9 ล้านพิกเซล
  • ปากกา S Pen
  • ขนาด 151.1 x 80.5 x 9.4 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 180 กรัม
  • แบตเตอรี่ 3100 mAh
  • ระบบปฏิบัติการ Android 4.1 Jelly Bean
  • มี 2 สี ขาว Marble White และ เทา Titanium Gray
นอกจากการอัพเกรดสเป็คที่เพิ่มขึ้นกว่า Galaxy Note รุ่นแรก และแรงกว่า Galaxy S3 แล้ว ยังมีซอฟต์แวร์ที่เพิ่มขึ้นอย่าง Air View ที่สามารถโชว์ข้อมูลของมีเดียได้ โดยนำ S Pen ไปแตะไว้เหนือมีเดียที่ต้องการก็จะแสดงข้อมูลออกมาโดยไม่ต้องกดเข้าไปยังไฟล์ดังกล่าว นอกจากนี้ก็ยังมาพร้อมกับ popup video แบบเดียวกับ Galaxy S3 แต่มีการปรับปรุงใหม่ให้ย่อขยายหรือปิดบนหน้าจอได้ และแอพ Note ลอยบนหน้าจอได้สำหรับใช้คู่กับปากกา S Pen
ฟีเจอร์ที่น่าทึ่งของ Galaxy Note 2 ก็คือ สามารถพลิกรูปที่ถ่ายไว้ และเขียนด้านหลังรูปได้เหมือนกับรูปจริงๆ
Galaxy Note 2 จะวางขายในยุโรป, เอเชีย, เอเชียกลาง ในเดือนตุลาคมนี้ ราคายังไม่ระบุ
ขอขอบคุณ http://www.mobiledista.net

ประวัติโทรศัพท์มือถือ


ประวัติของ โทรศัพท์มือถือ

"โทรศัพท์มือถือ หรือ โทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นอุปกรณ์สื่อสารอิเลคทรอนิคส์ลักษณะเดียวกับโทรศัพท์บ้านแต่ไม่ต้องการ สายโทรศัพท์จึงทำให้สามารถพกพาไปที่ต่างๆได้ โทรศัพท์มือถือใช้คลื่นวิทยุในการติดต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือโดยผ่าน สถานีฐาน โดยเครือข่ายของโทรศัพท์มือถือแต่ละผู้ให้บริการจะเชื่อมต่อกับเครือข่ายของ โทรศัพท์บ้านและเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของผู้ให้บริการอื่นๆ

โทรศัพท์ มือถือในปัจจุบันนอกจากจะมีคุณสมบัติในการสื่อสารทางเสียงแล้วยังมีความ สามารถอื่นอีกเช่นสนับสนุนการสื่อสารด้วยข้อความ เช่น SMS ,การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต, การสื่อสารด้วยแบบ Multimedia เช่น MMS, นาฬิกา, นาฬิกาปลุก, นาฬิกาจับเวลา, ปฏิทิน, ตารางนัดหมาย, สเปรดชีต, โปรแกรมประมวลผลคำ, รวมไปถึงความสามารถในการรองรับแอปพลิเคชันของจาวาเช่น เกมส์ต่างๆได้

โทรศัพท์มือถือ หรือ โทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นอุปกรณ์สื่อสารอิเลคทรอนิคส์ลักษณะเดียวกับโทรศัพท์บ้านแต่ไม่ต้องการ สายโทรศัพท์จึงทำให้สามารถพกพาไปที่ต่างๆได้ โทรศัพท์มือถือใช้คลื่นวิทยุในการติดต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือโดยผ่าน สถานีฐาน โดยเครือข่ายของโทรศัพท์มือถือแต่ละผู้ให้บริการจะเชื่อมต่อกับเครือข่ายของ โทรศัพท์บ้านและเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของผู้ให้บริการอื่นๆ
โทรศัพท์มือถือในปัจจุบันนอกจากจะมีคุณสมบัติในการสื่อสารทางเสียงแล้วยังมีความสามารถอื่นอีกเช่นสนับสนุนการสื่อสารด้วยข้อ ความ เช่น SMS ,การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต, การสื่อสารด้วยแบบ Multimedia เช่น MMS, นาฬิกา, นาฬิกาปลุก, นาฬิกาจับเวลา, ปฏิทิน, ตารางนัดหมาย, สเปรดชีต, โปรแกรมประมวลผลคำ, รวมไปถึงความสามารถในการรองรับแอปพลิเคชันของจาวาเช่น เกมส์ต่างๆได้

วิวัฒนาการของโทรศัพท์มือถือ

ยุค 1G (1st Generation) เริ่มตั้งแต่ยุคแรก ระบบยังเป็นระบบอะนาล็อก (Analog) และมีการแบ่งความถี่ออกมาเป็นช่องเล็กๆ ในยุคนี้เราสามารถใช้งานทางด้าน Voice ได้เพียงอย่างเดียว แต่อย่างไรก็ตาม ในยุคนี้ผู้ใช้ก็ยังไม่ได้มีความต้องการที่จะใช้บริการประเภทอื่น

ยุค 2G (2nd Generation) เนื่องจากผู้ใช้มีความต้องการและความหลากหลายด้าน การบริการมากขึ้น จึงได้มีการพัฒนาการส่งคลื่นทางคลื่นวิทยุจากแบบอะนาล็อกมาเป็นแบบ digital ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานทางด้านข้อมูลได้นอกเหนือจากบริการเสียง ทำให้ยุคนี้กลายเป็นยุคเฟื่องฟูของโทรศัพท์มือถือ และเพราะการให้บริการทางด้านข้อมูล ทำให้เกิดบริการอื่นๆ ที่ตามมมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นDownload Ringtone Wallpaper Graphic ต่างๆ แต่บริการในยุคนี้ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่ยังอยู่ในระดับต่ำ
ยุค 2.5G (2.5 Generation) หลังจากนั้นเป็นยุคที่อยู่ระหว่าง 2G และ 3G ซึ่งก็คือ 2.5G ใน 2.5G นี้เป็นยุคที่มีการนำเทคโนโลยี GPRS (General Packet Radio Service) มาใช้ เพื่อเพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูลให้มากกว่ายุค 2Gเทคโนโลยี GPRS สามารถส่งข้อมูลได้ที่ความเร็วสูงสุดถึง 115 kbps แต่ ความเร็วของ GPRS ในการใช้งานจริงจะถูกจำกัดให้อยู่ที่ประมาณ 40 kbps เท่านั้น ซึ่งในยุค 2.5G นั้นจะเป็นยุคที่เริ่มมีการใช้บริการในส่วนของข้อมูลมากขึ้น และการส่งข้อความก็พัฒนาจาก SMS มาเป็น MMS โทรศัพท์มือถือก็เริ่มเปลี่ยนจากจอขาวดำมาเป็นจอสี เสียงเรียกเข้า จากเดิมที่เป็นเพียง Monotone ก็เปลี่ยนมาเป็น Polyphonic รวมไปถึง True tone ต่างๆ ด้วย

ต่อมาในยุค 2.75G คือยุคที่ต่อเนื่องมาจาก GPRS แต่จะมีการพัฒนาความเร็วในการส่งข้อมูลเพิ่มสูงขึ้น และเรียกเทคโนโลยีที่สามารถเพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูลว่า EDGE (Enhanced Data rates for Global Evolution) ซึ่งจะมีความเร็วมากกว่า GPRS ประมาณ 3 เท่า หรือมีความเร็วสูงสุดประมาณ 384 kbps แต่มีความเร็วในการใช้งานจริงประมาณ 80-100 kbps

ยุค 3G (Third Generation) เทคโนโลยีการสื่อสารในยุคที่ 3 นั้นจะเป็นเทคโนโลยีที่ผสมผสานการรับส่งข้อมูล และเทคโนโลยีที่อยู่ในปัจจุบันเข้าด้วยกัน รวมทั้งส่งผ่านข้อมูลในระบบไร้สาย (Wireless) ที่ความเร็วที่สูงกว่ายุค 2.75G นอกจากนี้ 3G ยังสามารถให้บริการมัลติมีเดียได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การรับส่งข้อมูลแอพพลิเคชั่น (Application) รวมทั้งบริการระบบเสียงดีขึ้น เช่น การรับส่ง File ที่มีขนาดใหญ่ การใช้บริการ Video/Call Conference ดาวน์โหลดเพลง ชมภาพยนตร์แบบสั้นๆ ดู TV Streaming ต่างๆได้
ความโดดเด่นของ 3G
สามารถรับส่งข้อมูลโดยจะเน้นการเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วยความเร็วสูง ทำให้การติดต่อสื่อสารเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีรูปแบบใหม่ๆมากขึ้น สามารถให้บริการระบบเสียงและแอพพลิเคชั่นรูปแบบใหม่ เช่น เครื่องเล่นวีดีโอ ฟังเพลง Mp3 ดาวน์โหลดเกม แสดงกราฟฟิก และการแสดงแผนที่ตั้งต่างๆ ทำให้การสื่อสารเป็นแบบอินเตอร์แอคทีฟ สร้างความสนุกสนาน และสมจริงมากขึ้น รวมถึงการให้บริการ Mobile banking เช่น การโอนเงิน เช็คยอดเงิน ซื้อขายของ ซึ่งจะทำให้ชีวิตสะดวกสบายและคล่องตัวขึ้นโดยโทรศัพท์เคลื่อนที่เปรียบเสมือนคอมพิวเตอร์แบบพกพา วิทยุส่วนตัว และกล้องถ่ายรูป ผู้ใช้สามารถเช็คข้อมูลใน account ส่วนตัว เพื่อใช้บริการต่างๆ ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ เช่น self-care (ตรวจสอบค่าใช้บริการ) แก้ไขข้อมูลส่วนตัว ใช้บริการข้อมูลต่างๆ เช่น ข่าวเกาะติดสถานการณ์ ข่าวบันเทิง ข้อมูลด้านการเงิน ข้อมูลการท่องเที่ยว และ ตารางนัดหมายส่วนตัว
1G2G2.5G2.75G3G
โทรศัพท์เคลื่อนทียุคอนาล็อกให้บริการด้านเสียงเพียงอย่างเดียวโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคนี้เปลี่ยนจากการสื่อสารแบบอนาล็อกมาเป็นแบบดิจิตอลแทนทำให้มีการใช้งานด้านข้อมูล (data)เพิ่มขึ้นมีการใช้เทคโลยี GPRS ซึ่งมีความสามารถในการส่งข้อมูลในความเร็วที่สูงขึ้นทำให้ส่งข้อมูลได้หลากหลายกว่าเดิมมากเป็นช่วงพัฒนาต่อยอดมาจากGPRS จนกลายมาเป็น EDGEซึ่งมีความเร็วในการส่งข้อมูลได้มากกว่า GPRS ประมาณ 3เท่าโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถรับส่งข้อมูลในความเร็วสูงโดยจะเน้นการเชื่อมต่อแบบ wirelessด้วยความเร็วสูง ทำให้มีบริการมัลติมีเดียได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ที่มา : 3G Americas whitepaper, “EDGE, HSPA, LTE: Broadband Innovation”, September 2008


4G ระบบโทรศัพท์มือถือที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาและทดสอบ เชื่อกันว่าโทรศัพท์มือถือในยุคนี้จะสามารถสนับสนุน แอปพลิเคชันที่ต้องการแบนด์วิธสูงเช่น ความจริงเสมือน 3 มิติ (3D virtual reality) หรือ ระบบวิดีโอที่โต้ตอบได้ (interactive video) เป็นต้น


ระบบปฏิบัติการมือถือ
ซิมเบียน ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในค่ายโนเกีย
วินโดวส์โมบาย จะใช้กับโทรศัพท์มือถือที่เป็น PDA (Personal digital assistants)
ไอโฟน โอเอส ใช้เฉพาะใน ไอโฟน และ ไอพอดทัช"